ถ่ายทอดประสบการณ์บ้าให้กับเพื่อนนักปฏิบัติธรรม:
บนเส้นทางปกติของคนเคยบ้า- เดินจงกรม นั่งสมาธิด้วยความตั้งใจ หายใจเข้าก็รู้ หายใจออกก็รู้ หายใจสั้นยาวก็รู้ ปฏิบัติเช่นนี้มิได้ขาด จนได้อารมณ์ปิติ สุข เสมือนนั่งอยู่คนเดียว
- เมื่อได้ฌาน เริ่มมีสัมผัสพิเศษเกิดขึ้น รู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้ และสามารถเข้าใจธรรมที่เคยติดขัดได้โดยง่าย(ตัวรู้) มีหูทิพย์ ตาทิพย์ เป็นต้น
เมื่อเกิดตัวรู้ จึงเริ่มหลงทาง เริ่มอยากได้อยากมีมากขึ้น พยายามศึกษาค้นหาความรู้นอกเหนือจากพระไตรปิฎก และในทุกครั้งที่ได้เริ่มใช้ความสามารถอันเหนือมนุษย์ช่วยเหลือมนุษย์ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่หวังผลตอบแทน ใจก็เป็นสุข เกิดความยึดมั่นว่าสิ่งนั้นสิ่งนี้เป็นสิ่งถูกต้องมิเปลี่ยนแปลง
วิเคราะห์ได้ว่า:
ในช่วงแรกจะมีความรู้จริงเห็นจริง(หูทิพย์ตาทิพย์) เมื่อเริ่มยึดมั่นก็เกิดอุปทาน เกิดจินตนาการเริ่มสร้างตัวตน ให้มีเรา มีเขา มีสัตว์สิ่งของ ทั้งที่สิ่งเหล่านี้ไม่เคยมีอยู่จริง
กระบวนการสร้างตัวตน
- ค่อยๆสร้างตัวตนตามอุปทานที่มีอย่างค่อยเป็นค่อยไป จากสิ่งหยาบกลายเป็นสิ่งละเอียด จากที่แค่สัมผัสได้ด้วยใจเริ่มสัมผัสได้เริ่มจับต้องได้ สุดท้ายพูดคุยสนทนากับตัวตนที่สร้างขึ้นมาได้
- ปัญญาที่เกิดจากปฏิบัติเป็นของจริง แต่ด้วยความหลงกลับสร้างตัวรู้นั้นให้มีตัวตนขึ้น เป็นตัวตนที่1 ตัวตนที่2 และตัวตนที่3 จนกระทั้งสามารถสร้างตัวตนได้อย่างไม่จำกัด เป็นโลกของคนบ้าโดยสมบูรณ์แบบ
การรักษา
- ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเท่านั้น เพื่อให้ได้สติกลับมาก่อนโดยการกินยา แต่การกินยาเป็นระยะเวลานานทำให้เกิดอาการซึมเศร้าได้
- ศึกษาธรรมเพื่อระงับกิเสล ว่าทุกสรรพสิ่งนั้นไม่เที่ยง มีเกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไป
- ไม่แสวงหาอวิชชา อิทธิปาฏิหาริย์
- อยู่กับธรรมชาติ หากิจกรรมทำเพื่อไม่ให้คิดฟุ้งซ้าน เช่น การปลูกต้นไม้ ทำสวน การอ่านหนังสือ
- ให้เป็นผู้มีสติรู้ตนตลอดเวลา
- ยอมรับความจริง(ว่าบ้า) และอยู่กับความจริงนั้นให้ได้