ชายไทยนายหนึ่งมีความศรัทธาในพระพุทธศาสนาปรารถนาบวชเพื่อศึกษาธรรม และบวชทดแทนคุณบิดามารดา บรรพชาอุปสมบทที่วัดแห่งหนึ่งในอำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช รวมกับสหธรรมมิก 13คน ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ได้ฟังธรรมจากครูบาอาจารย์ทำให้เกิดข้อสงสัยถึงหนทางแห่งการดับทุกข์ จึงได้ตัดสินใจบวชในครั้งนี้
ภายหลังการบรรพชาอุปสมบทได้ 1เดือน กลับขาดผู้ชี้แนะสั่งสอนอบรม เพื่อนพระภิกษุก็ได้ลาสิกขาไปหลายรูป เหลืออยู่ก็เฉพาะพระที่ตั้งใจบวชเข้าพรรษาไม่กี่รูปและพระเจ้าอาวาสที่ได้ตั้งตนเป็นพระเกจิอาจารย์ เป็นหมู่คณะหนึ่งที่สนใจในอิทธิปาฏิหารย์ ฝึกนั่งสมาธิเพื่อให้ได้ฌาน เมื่อได้ฌานแล้วก็แสดงอิทธิฤทธิ์ เรียกศรัทธาญาติโยมเข้าวัดมาทำบุญ
เมื่อได้พิจารณาปฏิปทาของเหล่าพระภิกษุคณะนี้ ไม่ใช่แนวทางการปฏิบัติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงปลีกตัวออกห่างจากพระคณะนี้ หลีกลี้เข้าป่าเข้าถ้ำ อยู่ป่าช้า ปักกลดใต้โคนต้นไม้ ฝนตกแดดออกก็อยู่อย่างนั้น ที่วัดหนังสือธรรมแทบจะหาไม่ได้ เพราะเจ้าอาวาสไม่ได้สนใจที่จะให้พระลูกวัดเรียนรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยท่านประกาศตนเองว่าเป็นผู้ถึงแล้ว สำเร็จแล้ว เป็นผู้เหาะเหิรเดินอากาศได้
และแล้วก็ได้พบแสงสว่างเมื่อมีผู้นำหนังสือมาถวาย เป็นหนังสือของพระอาจารย์ทูล ขิปฺปปญฺโญ ท่านได้เขียนบรรยายในเรื่องของขันธ์5 จึงศึกษาและปฏิบัติตามคำสอนที่ท่านพระอาจารย์ได้เขียนไว้ จนพอจะเข้าใจโดยสังเขปแต่ยังไม่กระจ่างในการนำไปปฏิบัติ จึงได้เริ่มศึกษาหัวข้อธรรมอื่นๆเพิ่มเติม
ชีวิตที่เปลี่ยนไป:
ก่อนจะเข้าพรรษา 2เดือน ได้มีพระวัยชรารูปหนึ่ง พรรษา 19 ได้มาแสดงเจตจำนงจำพรรษาที่วัดแห่งนี้ตามคำนิมนต์จากเจ้าอาวาส ท่านชื่อว่าหลวงตาจัน เป็นคนอีสาน ตัวสูงพูดจาดี ท่านได้มาเป็นผู้นำของพระภิกษุทั้งพระเก่าและที่เพิ่งจะบวชเข้าพรรษา นำทำวัตรสวดมนต์ ทั้งเช้าเย็นมิได้ขาด พระภิกษุบวชใหม่ได้เรียนรู้กิจของสงฆ์ที่ควรปฏิบัติ โดยมิได้ขาดตกบกพร่อง เสมือนท่านได้มาเติมเต็มในสิ่งที่พระบวชใหม่อย่างเรายังไม่มี วัตรปฏิบัติที่ดีของพระภิกษุไม่ใช่ดีแค่การพูด แต่เป็นวัตรปฏิบัติที่ภิกษุทุกรูปพึ่งมีที่เรียกการปฏิบัติปฏิบัติชอบ
เข้าพรรษาแล้วพระภิกษุได้เริ่มเก็บตัวอยู่แต่ในวัด นั่งสมาธิไหว้พระสวดมนต์
“หลวงติหลวงพ่ออยากให้หลวงติสอบนักธรรมตรี หลวงพ่อจะสอนให้ตลอดช่วงเข้าพรรษานี้” หลวงตาจันพูด
”ได้ครับหลวงพ่อ”พระสุเมโธพูด
เมื่อมีหลวงพ่อ พระสุเมโธก็ไม่ได้อยู่ในถ้ำหรือในป่าอีกแล้ว หลวงตาจันได้ชักขวนพระสุเมโธสร้างกุฎิให้พระสุเมโธได้จำวัด และใช้เป็นสถานที่สอนความรู้ของพระนักธรรมตรีให้พระภิกษุและสามเณร หลวงพ่อได้หาเศษไม้ภายในวัด และออกเงินซื้อตะปูและสังกะสี
ในระหว่างการสร้างที่ใกล้จะเสร็จ หลวงตาจันกำลังเลื่อยไม้ พระสุเมโธกำลังตอกฝาผนัง อยู่ๆก็มีเสียงดังขึ้นจากหน้ากุฏิว่า
”สร้างที่สอนหนังสือเล็กขนาดนี้ จะได้ประโยชน์อะไร เห็นได้ว่าไม่สามารถสร้างอรหันต์ให้สำเร็จแม้แต่องค์เดียว”เสียงพูดของเจ้าอาวาสดังขึ้นอย่างไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว
”สร้างให้หลวงติได้อยู่ได้ใช้ด้วยครับ”หลวงตาจันพูดด้วยสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง แต่สังเกตุได้ว่าแววตาหม่นหมองลง
‘พูดเข่นนี้ได้อย่างไร ไม่รักษาหน้าหลวงตาจันเลย’พระสุมโธได้แต่คิด อดรู้สึกสงสารหลวงตาจันไม่ได้
ท่านเจ้าอาวาสยิ้มแล้วเดินจากไป
หลายสัปดาห์ต่อมา…
‘และแล้วก็มีกุฎิจำวัดกับเขาเสียที’ พระสุเมโธคิด
”ขอกราบขอบพระคุณพระอาจารย์มากครับ พรรษาแรกของกระผมไม่ต้องนอนเปียกฝนแล้ว”พระสุเมโธพูด
หลวงตาจันยิ้มอย่างใจดี
กุฏิหลังนี้ได้ใช้เป็นที่สอนพระและสามเณรหลายรูป ก่อนออกพรรษาพระและสามเณรก็พร้อมสำหรับการสอบนักธรรมตรี
”หลวงพ่อจะพาหลวงติไปสอบที่วัดเจ้าคณะอำเภอ แต่ต้องไปนอนค้างหนึ่งคืน”พระอาจารย์จันพูดและได้นัดหมายกำหนดเวลาเดินทาง
เมื่อถึงวัดเจ้าคณะอำเภอหลวงพ่อได้พาพระสุเมโธไปพักยังกุฏิร้างเอาไว้สำหรับรับรองพระภิกษุที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด เมื่อถึงเวลาสรงน้ำ พระสุเมโธเดินไปหยิบผ้าสรงน้ำที่ผึ่งแดดไว้
”หลวงติ”พระอาจารย์เรียกหา แล้วพูดต่อไปว่า
”เอาผ้าเช็ดเท้าหน้าห้องน้ำไปซักให้สะอาดแล้วเอาใช้เป็นผ้าสรงน้ำ ส่วนผ้าสรงน้ำของหลวงติเก่าขาดมากแล้วให้ใช้เป็นผ้าเช็ดเท้าหน้าห้องน้ำแทน”
“ครับพระอาจารย์”พระสุเมโธมองพระอาจารย์อย่างสงสัย แต่ยังคงปฏิบัติตามคำสัง เมื่อได้หยิบผ้าเช็ดเท้าหน้าห้องน้ำขึ้นมาดู จึงได้รู้เหตุผล เพราะผ้าผืนนี้เป็นผ้าฝ่ายเนื้อดีซับน้ำได้ดีกว่าผืนเก่า ที่สำคัญดูใหม่กว่ามาก
‘โชคดีจริงเราได้ของดีมาใช้’พระสุเมโธคิด
วัดในชนบทอยู่ในป่าในเขาไม่ค่อยได้ใช้ของดีๆเหมือนเช่นพระในตัวเมือง ที่ผู้ดีมีเงินมักจะซื้อไปถวายอยู่บ่อยครั้ง แต่พระสุเมโธกลับไม่เดือดร้อน มีอะไรให้ใช้ก็ใช้ ไม่มีก็ไม่ยื้อแย่งกับใคร มีแบบอย่างอย่างพระอาจารย์จัน อังสะท่านก็เย็บเอง สบงจีวรขาดท่านก็ปะ เห่อ!กว่าจะเข้าใจก็ต้องใช้เวลา การทำให้เห็นดีกว่าการพร่ำพูดสอน
หลังจากรับกฐินแล้ว พระอาจารย์จันได้ชักชวนพระลูกศิษย์ไปจำวัดที่อื่น ท่านไม่เคยอยู่ที่ไหนเกิน 2พรรษา ปัจจุบันท่านบวชได้ 34พรรษาแล้ว เป็นพระธรรมฑูตบ่อยครั้งที่ต้องเดินทางไปต่างปรเทศ
‘พระดีใช่ดูที่ยศฐาบันดาศักดิ์ ดูได้ที่วัตรปฏิบัติ ปฏิปทาของท่าน มีเมตตากรุณา ให้โดยไม่หวังผลตอบแทน’