บารมี 10 หรือ ทศบารมี หมายถึง ปฏิปทาอันยวดยิ่ง, คุณธรรมที่ประพฤติปฏิบัติอย่างยิ่งยวด คือ ความดีที่บำเพ็ญอย่างพิเศษ เพื่อบรรลุซึ่งจุดหมายอันสูง เช่น ความเป็นพระพุทธเจ้า และความเป็นมหาสาวก เป็นต้น
- ทาน คือ การให้ การเสียสละ
- ศีล คือ การรักษากายวาจาให้เรียบร้อย, ความประพฤติดีงามถูกต้องตามระเบียบวินัย
- เนกขัม คือ การออกบวช, ความปลีกตัวปลีกใจจากกาม
- ปัญญา คือ ความรอบรู้, ความหยั่งรู้เหตุผล เข้าใจสภาวะของสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริง
- วิริยะ คือ ความเพียร, ความแกล้วกล้า ไม่เกรงกลัวอุปสรรค พยายามบากบั่นอุตสาหะ ก้าวหน้าเรื่อยไป ไม่ทอดทิ้งธุระหน้าที่
- ขันติ คือ ความอดทน, ความทนทานของจิตใจ สามารถใช้สติปัญญาควบคุมตนให้อยู่ในอำนาจเหตุผล และแนวทางความประะพฤติ ที่ตั้งไว้เพื่อจุดหมายอันชอบไม่ลุอำนาจกิเลส
- สัจจะ คือ ความจริง คือ พูดจริง ทำจริง และจริงใจ
- อธิษฐาน คือ ความตั้งใจมั่น, การตัดสินใจเด็ดเดี่ยว วางจุดหมายแห่งการกระทำของตนไว้แน่นอน และดำเนินตามนั้นแน่วแน่
- เมตตา คือ ความรักใคร่, ความปรารถนาดี มีไมตรี คิดเกื้อกูลให้ผู้อื่นและเพื่อนร่วมโลกทั้งปวงมีความสุขความเจริญ
- อุเบกขา คือ ความวางใจเป็นกลาง, ความวางใจสงบราบเรียบสม่ำเสมอ เที่ยงธรรม ไม่เอนเอียงไปด้วยความยินดียินร้ายชอบชังหรือแรงเย้ายวนยั่วยุใดๆ
ทศบารมีนี้ เรียงตามที่ถือว่าได้บำเพ็ญในทศชาติ ดังนี้
- พระเตมีย์ — เนกขัมมะบารมี
- พระมหาชนก — วิริยะบารมี
- พระสุวรรณสาม — เมตตาบารมี
- พระเนมิราช — อธิษฐานบารมี
- พระมโหสถ — ปัญญาบารมี
- พระภูริทัตต์ — ศีลบารมี
- พระจันทกุมาร — ขันติบารมี
- พระนารท — อุเบกขาบารมี
- พระวิธุร — สัจจะบารมี
- พระเวสสันดร — ทานบารมี
บารมีนั้น ท่านกล่าวว่าจะบำเพ็ญให้บริบูรณ์ ต้องครบ 3 ขั้น คือ
- บารมี หมายถึง บารมีระดับสามัญ เช่น ทานบารมี ได้แก่ ให้ทรัพย์สินเงินทอง สมบัตินอกกาย
- อุปบารมี หมายถึง บารมีระดับรองหรือจวนจะสูงสุด เช่น ทานอุปบารมี ได้แก่ การเสียสละอวัยวะเป็นทาน
- ปรมัตถบารมี หมายถึง บารมีระดับสูงสุด เช่น ทานปรมัตถบารมี ได้แก่ การสละชีวิตเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่น
บำเพ็ญทั้ง 10 บารมี ครบ 3 ขั้นนี้ เรียกว่า สมตึสปารมี หรือ สมดึงสบารมี แปลว่า บารมี 30 ถ้วน